วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557
7 Steps ในการทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ MGM ให้สำเร็จ
7 Steps ในการทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ MGM ให้สำเร็จ
1.2 เข้าไปสมัครที่บริษัท สำนักงานใหญ่ หรือสาขาทั่วประเทศ ได้รหัสสมาชิกทันที แจ้งงานได้เลยเช่นกัน ค่าสมัครเพียง 250 บาท เช่นกัน
นอกจากนั้น ยังมีค่าบริหารทีมและค่าแนะนำ กรณีที่คุณสร้างทีม คุณจะได้ผลต่างจากผลงานของทีมงาน 1-6.75% จากยอดขายทั้งหมดของทีม สมมุติว่าทีมงานขายได้ 100,000 บาท คุณก็จะได้ค่าบริหารทีมประมาณ 2,000 บาท
กลุ่มที่ 1 ทำตารางออกเป็น 12 เดือน ใส่รายชื่อผู้ มุ่งหวังลงไปทั้ง 12 เดือน โดยใช้ข้อมูลการหมดประกันภัยรถยนต์เป็นตัวแยก คุณก็จะมีรายชื่อเพื่อติดตามเสนอขายประกันภัยรถยนต์ทั้ง 12 เดือน
กลุ่มที่ 2 สำหรับคนที่คาดว่าจะสนใจธุรกิจ แยกออกเป็น กลุ่มย่อย คือคนที่อยู่ใกล้ตัว กับคนที่อยู่ไกล สำหรับคนที่อยู่ใกล้ คุณอาจจะต้องใช้วิธีการนัดพบ เพื่อพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ ให้คุณเตรียมเอกสารที่มีให้พร้อมก่อนเข้าพูดคุย ส่วนรายชื่อที่อยู่ไกล ให้ขออีเมลล์ เพื่อส่งเว็บไปให้ดูรายละเอียด
กรณีที่คุณต้องการแนะนำธุรกิจให้กับคนที่ไม่รู้จัก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยเราจะมีรายชื่อเว็บบอร์ดให้ คุณเพียงนำข้อความต่างๆ ไปโพสให้ผู้มุ่งหวังคลิกมาที่เว็บไซต์ส่วนตัวของคุณ
ลักษณะของเว็บขยายงาน เหมือนนามบัตรออนไลน์ ที่ทีมงานได้สร้างรายละเอียดไว้แล้ว คุณมีหน้าที่แค่ใส่ชื่อ เบอร์โทร และอีเมลล์ของคุณลงไป ก็สามารถใช้แนะนำผู้มุ่งหวังได้ทั่วประเทศ
การอบรมจะมีทั้งการให้ความรู้ และเรื่องการทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับแผนรายได้ โดยสมาชิกของบริษัท และผู้สนใจสามารถเข้าฟังฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
Step ที่ 1. สมัครสมาชิกให้เรียบร้อยก่อน
1.1 สมัครโดยการส่งเอกสารทางอีเมลล์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด คุณจะได้รหัสภายใน 24 ชม. ทำการ และสามารถเช็คเบี้ย และแจ้งงานได้ทันที หักคอมฯ ได้ ไม่เสี่ยง ค่าเพียงสมัครเพียง 250 บาท ตลอดชีพ1.2 เข้าไปสมัครที่บริษัท สำนักงานใหญ่ หรือสาขาทั่วประเทศ ได้รหัสสมาชิกทันที แจ้งงานได้เลยเช่นกัน ค่าสมัครเพียง 250 บาท เช่นกัน
Step ที่ 2. กำหนดเป้าหมายสู่ความสำเร็จ
คุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะสมัครสมาชิกไปทำไม ลองหาเหตุผล เช่น ต้องการสมัครเพื่อขาย หรือเพื่อต้องการสมัครไว้ใช้เอง ถ้าคุณต้องการสมัครเพื่อขาย ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยประมาณ 15,000 บาท คุณจะได้ค่าคอมฯ ประมาณ 12% มีให้เลือกกว่า 30 บริษัท คุณจะมีค่าคอมฯ จากการขายประมาณ 1,800 บาท ถ้าเดือนหนึ่งคุณขายได้ประมาณ 5 คันก็จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 9,000 บาทนอกจากนั้น ยังมีค่าบริหารทีมและค่าแนะนำ กรณีที่คุณสร้างทีม คุณจะได้ผลต่างจากผลงานของทีมงาน 1-6.75% จากยอดขายทั้งหมดของทีม สมมุติว่าทีมงานขายได้ 100,000 บาท คุณก็จะได้ค่าบริหารทีมประมาณ 2,000 บาท
Step ที่ 3. สร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง
คุณอาจจะมีเพื่อนสมัยเรียน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนของเพื่อน คู่ค้า หรือคนที่นำสินค้ามาเสนอขายให้คุณ รายชื่อเหล่านี้ให้คุณทำเป็นรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ พร้อมอีเมลล์ และแยกประเภทออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 กลุ่มรายชื่อที่จะขายประกัน ส่วนที่ 2 กลุ่มรายชื่อที่คิดว่าน่าจะสนใจทำธุรกิจกลุ่มที่ 1 ทำตารางออกเป็น 12 เดือน ใส่รายชื่อผู้ มุ่งหวังลงไปทั้ง 12 เดือน โดยใช้ข้อมูลการหมดประกันภัยรถยนต์เป็นตัวแยก คุณก็จะมีรายชื่อเพื่อติดตามเสนอขายประกันภัยรถยนต์ทั้ง 12 เดือน
กลุ่มที่ 2 สำหรับคนที่คาดว่าจะสนใจธุรกิจ แยกออกเป็น กลุ่มย่อย คือคนที่อยู่ใกล้ตัว กับคนที่อยู่ไกล สำหรับคนที่อยู่ใกล้ คุณอาจจะต้องใช้วิธีการนัดพบ เพื่อพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ ให้คุณเตรียมเอกสารที่มีให้พร้อมก่อนเข้าพูดคุย ส่วนรายชื่อที่อยู่ไกล ให้ขออีเมลล์ เพื่อส่งเว็บไปให้ดูรายละเอียด
Step ที่ 4. โปรโมทเว็บไซต์
เว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่ง และสามารถทำได้ทันที คุณสามารถใช้เว็บไซต์ขาย หรือแนะนำธุรกิจให้กับคนที่รู้จักและไม่รู้จักได้ หลังจากที่คุณลงทะเบียนกับเว็บ www.20insure.com แล้ว คุณจะมีเว็บไซต์ขยายธุรกิจเป็นของตัวเองทันที ถ้าคุณเอาเว็บนี้ไปแนะนำคน อื่น คุณจะกลายเป็นผู้ที่เค้าจะติดต่อมา ทั้งเบอร์โทรศัพท์ และอีเมลล์สำหรับติดต่อจะเป็นของ ถ้าผู้สนใจกรอกข้อมูลผ่านหน้าเว็บ ระบบจะแจ้งเตือนทางอีเมลล์ให้คุณทราบ ว่ามีใครบ้างที่สนใจซื้อประกัน หรือสนใจธุรกิจกรณีที่คุณต้องการแนะนำธุรกิจให้กับคนที่ไม่รู้จัก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยเราจะมีรายชื่อเว็บบอร์ดให้ คุณเพียงนำข้อความต่างๆ ไปโพสให้ผู้มุ่งหวังคลิกมาที่เว็บไซต์ส่วนตัวของคุณ
ลักษณะของเว็บขยายงาน เหมือนนามบัตรออนไลน์ ที่ทีมงานได้สร้างรายละเอียดไว้แล้ว คุณมีหน้าที่แค่ใส่ชื่อ เบอร์โทร และอีเมลล์ของคุณลงไป ก็สามารถใช้แนะนำผู้มุ่งหวังได้ทั่วประเทศ
Step ที่ 5. เช็คเบี้ย ขายๆ ๆ
การเช็คเบี้ยทำได้หลายทาง ทั้งเช็คจากหน้าเว็บของบริษัท หรือเช็คทางโทรศัพท์ หรือเช็คทางอีเมลล์ การขายจะทำให้คุณมีรายได้ มีประสบการณ์ เพื่อจะนำรายได้และประสบการณ์เหล่านั้นเป็นทุน และเอาไว้สอนทีมงาน ถ้าขายได้เยอะ จะได้ปรับตำแหน่ง ได้ทั้งกำไรจากการขายปลีกเพิ่มมากขึ้น และได้ผลต่างจากค่าบริหารทีมเยอะขึ้นด้วย ที่สำคัญ จะทำให้ตัวแทในสังกัดคุณมีความเชื่อมั่นStep ที่ 6. เข้ารับการอบรมเรื่องความรู้และแผนการตลาด
บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด มีระบบฝึกอบรม เพื่อให้ความรู้สมาชิกและผู้ที่สนใจทุกสัปดาห์ และนอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้มีการออกไปให้ความรู้แต่ผู้สนใจในจังหวัดต่างๆการอบรมจะมีทั้งการให้ความรู้ และเรื่องการทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับแผนรายได้ โดยสมาชิกของบริษัท และผู้สนใจสามารถเข้าฟังฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
Step ที่ 7. ถ่ายทอดความรู้ สู่ทีมงาน
ถ้าคุณมีความรู้ในการทำธุรกิจ 1-6 แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำต่อไปคือการบอกต่อ และถ่ายทอดความรู้ที่คุณได้มา ส่งต่อให้กับทีมงานในสังกัดของคุณ ให้เค้าทำตามเหมือนที่คุณทำ อะไรที่ทำแล้วเกิดข้อผิดพลาด ก็เสนอแนะ ในขณะที่อะไรที่ทำแล้วได้ผล ก็แจ้งให้ทุกคนทราบเพื่อทำตาม ธุรกิจของคุณก็จะเติบโตด้วยความั่นคงวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ศรีกรุงโบรคเกอร์ Srikrungbroker รับสมัครตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ทั่วไทย
ศรีกรุงโบรคเกอร์รับสมัครตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ทั่วไทย ค่าคอมมิชชั่น 12%-21% ขายได้มากกว่า 30 บริษัทประกันภัย ไม่กำหนดยอดขาย รายได้เป็นแสนต่อเดือน รับเว็บไซต์ขยายงานฟรี ผ่อนชำระได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% เที่ยวแบบ VIP ทั้งในและต่างประเทศฟรี
อยากรวยต้องขายประกันภัยรถยนต์ โอกาสทอง!!! ของผู้ที่
อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
บริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001:2008 จาก URS เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้มารับบริการ มั่นใจในคุณภาพ ดังคำขวัญที่ว่า " เบี้ยถูก คุ้มครองดี บริการเยี่ยม "
ยินดีต้อนรับสู่โอกาสทางธุรกิจกับบริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด สมัครสมาชิกเพียง 250 บาท(ครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ) คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันภัยรถยนต์ได้ทันที ขายประกันได้มากกว่า 30 บริษัทประกันภัยชั้นนำ มีสำนักงานให้ใช้ฟรีทั่วประเทศ พร้อมห้องอมรมสัมมนาครบครัน ไม่ต้องมีเงินค้ำประกัน ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน ไม่กำหนดยอดขาย ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ไม่ต้องมีใบอนุญาตตัวแทนหรือบัตรนายหน้าประกันวินาศภัย สมัครร่วมธุรกิจวันนี้ รับเว็บไซต์ฟรี มูลค่า 5,000 บาท และมีโอกาสลุ้นท่องเที่ยวแบบVIP ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฟรี!
สมัครเป็นสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ วันนี้
•ซื้อใช้เอง รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 12% - 21%
•ขายประกันภัยรถยนต์ ได้ค่าคอมมิชชั่น 12% - 21%
•แนะนำสมาชิก จะได้ค่าแนะนำ 1%+ ค่าบริหารสายงาน 3%-6%.
•ได้ค่าคีย์งาน Online พรบ. เพิ่มอีก 5%
สนใจสมัครตัวแทนประกันภัย ติดต่อ คุณอุดม จันเติม
โทร.085-964-5515(TRUE)
อยากรวยต้องขายประกันภัยรถยนต์ โอกาสทอง!!! ของผู้ที่
อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
บริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001:2008 จาก URS เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้มารับบริการ มั่นใจในคุณภาพ ดังคำขวัญที่ว่า " เบี้ยถูก คุ้มครองดี บริการเยี่ยม "
ยินดีต้อนรับสู่โอกาสทางธุรกิจกับบริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด สมัครสมาชิกเพียง 250 บาท(ครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ) คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันภัยรถยนต์ได้ทันที ขายประกันได้มากกว่า 30 บริษัทประกันภัยชั้นนำ มีสำนักงานให้ใช้ฟรีทั่วประเทศ พร้อมห้องอมรมสัมมนาครบครัน ไม่ต้องมีเงินค้ำประกัน ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน ไม่กำหนดยอดขาย ไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ไม่ต้องมีใบอนุญาตตัวแทนหรือบัตรนายหน้าประกันวินาศภัย สมัครร่วมธุรกิจวันนี้ รับเว็บไซต์ฟรี มูลค่า 5,000 บาท และมีโอกาสลุ้นท่องเที่ยวแบบVIP ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฟรี!
สมัครเป็นสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ วันนี้
•ซื้อใช้เอง รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 12% - 21%
•ขายประกันภัยรถยนต์ ได้ค่าคอมมิชชั่น 12% - 21%
•แนะนำสมาชิก จะได้ค่าแนะนำ 1%+ ค่าบริหารสายงาน 3%-6%.
•ได้ค่าคีย์งาน Online พรบ. เพิ่มอีก 5%
สนใจสมัครตัวแทนประกันภัย ติดต่อ คุณอุดม จันเติม
โทร.085-964-5515(TRUE)
E-mail :udom2819@gmail.com
ID Line : am 16607
วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ประกันภัยรถยนต์, ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ,พ.ร.บ. by ศรีกรุงโบรคเกอร์
ประกันภัยรถยนต์, ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ,พ.ร.บ. by ศรีกรุงโบรคเกอร์
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรืิอ พ.ร.บ.
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “ประกัน พ.ร.บ.” เป็นการประกันภัยที่กฏหมายบังคับให้รถทุกคัน ทุกประเภท ต้องทำประกันภัย (ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พศ. 2535) เพื่อให้ความคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย ให้ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายและค่าเสียหายเบื้องต้นอย่างทันท่วงที และเป็นหลักประกันแก่สถานพยาบาลทุกแห่งว่าได้รับค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ให้การรักษาแก่ผู้ประสบภัยจากรถแน่นอน
ประเภทรถที่ต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.
รถที่ต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ได้แก่รถทุกชนิดทุกประเภทตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วย การขนส่งทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร ที่เจ้าของมีไว้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ ไม่ว่ารถดังกล่าวจะเดินด้วย กำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อเครื่อง รถยนต์โดยสาร รถบรรทุก หัวรถลากจูง รถพ่วง รถบดถนน รถอีแต๋น ฯลฯ ดังนั้น รถบางประเภทที่กรมการขนส่งทางบกไม่รับจดทะเบียน แต่หากเข้าข่ายว่ารถนั้นเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น ให้จัดเป็นรถที่ต้องทำ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.
รถที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำประกันภัย พ.ร.บ.
พ.ร.บ. คุ้มครอง ฯ กำหนดประเภทรถที่ไม่ต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ไว้ดังนี้
1. รถสำหรับเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ พระรัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
2. รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียน และมีเครื่องหมายตามระเบียบที่เลขาธิการพระราชวังกำหนดรถของกระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการต่าง ๆ รถยนต์ทหาร
3. รถของหน่วยงานธุรการขององค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญและ หน่วยงานธุรการ ที่เป็นอิสระขององค์กรใด ๆ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
ผู้มีหน้าที่ต้องทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
1. เจ้าของรถ (ผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถ)
2. ผู้เช่าซื้อรถ (ผู้ครอบครองรถในฐานะผู้เช่าซื้อรถ)
3. เจ้าของรถซึ่งนำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
- เจ้าของรถหรือผู้เช่าซื้อรถผู้ใด ไม่จัดให้มีการประกันภัยตาม พ.ร.บ. นี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000.- บาท
- ผู้ใดนำรถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันภัยตาม พ.ร.บ. นี้มาใช้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000.- บาท
- เจ้าของรถหรือผู้เช่าซื้อรถผู้ใด ไม่ติดเครื่องหมายแสดงว่ามีการประกันภัยตาม พ.ร.บ. นี้
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000.- บาท
- ผู้ประสบภัยผู้ใดยื่นคำขอรับชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น โดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อขอรับค่าเสียหาย เบื้องต้นตามนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000.- บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- บริษัทประกันวินาศภัยซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการรับประกันภัยรถบริษัทใดฝ่าฝืนไม่ยอมรับประกันภัยตามนี้ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000.- บาท ถึง 25,000.- บาท
- เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถที่บริษัทได้รับประกันภัยไว้ หากบริษัทใดไม่จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น ให้แก่ผู้ประสบภัย (หรือทายาท) ให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอจากผู้ประสบภัย ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000.- บาท ถึง 50,000.- บาท
- ผู้ใดปลอมเครื่องหมาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ 10,000.- บาท ถึง 100,000.- บาท
- ผู้ใดติดหรือแสดงเครื่องหมายอันเกิดจากการปลอมเครื่องหมายกับรถคันหนึ่งคันใด ต้องระวางโทษเช่นเดียว กับการปลอมเครื่องหมาย
- เจ้าของรถผู้ใดติดเครื่องหมายหรือแสดงเครื่องหมายที่ต้องส่งคืนต่อนายทะเบียน หรือเครื่องหมายที่ใช้ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000.- บาท
ผู้ที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.
1. ผู้ประสบภัยจากรถ อันได้แก่ประชาชนทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถ ก็จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. นี้
2. ทายาทของผู้ประสบภัยข้างต้นกรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต
ความเสียหายที่ได้รับความคุ้มครอง
ค่าเสียหายที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทจะได้รับการชดใช้มีดังนี้
1.ค่าเสียหายเบื้องต้น
ผู้ประสบภัยจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นโดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิดภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ยื่นคำขอให้มีการชดใช้
ค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันภัยโดยมีรายการดังนี้
กรณีบาดเจ็บโดยไม่ถึงกับสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับ
การรักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ได้แก่
- ค่ายา ค่าอาการทางเส้นเลือด ค่าอ๊อกซิเจน และอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน
- ค่าอวัยวะเทียม อุปกรณ์ในการบำบัดรักษา รวมทั้งค่าซ่อมแซม
- ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าตรวจ ค่าวิเคราะห์โรค ทั้งนี้ไม่รวมถึงค่าจ้างพยาบาลพิเศษ
และค่าบริการอื่นทำนองเดียวกัน
- ค่าห้องและค่าอาหารตลอดเวลาที่เข้ารับการรักษาพยาบาล
- ค่าพาหนะนำผู้ประสบภัยไปโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล
1.2 กรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 30,000 บาท/คน
จากกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณี ดังต่อไปนี้
- ตาบอด
- หูหนวก
- เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
- สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- สูญเสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
- จิตพิการอย่างติดตัว
- ทุพพลภาพอย่างถาวร
1.3 กรณีเสียชีวิต ทายาทโดยชอบธรรมจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับ
การจัดการศพ โดยได้รับชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 30,000 บาท/คน
1.4 กรณีเสียชีวิตหลังจากมีการรักษาพยาบาล จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าปลงศพ
รวมกันแล้วไม่เกิน 30,000 บาท
ความเสียหายเบื้องต้นทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติฯ
2.ค่าเสียหายส่วนที่เกินค่าเสียหายเบื้องต้น
ค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้นโดยต้องรอพิสูจน์ความผิดก่อน ผู้ประสบภัยจะได้รับการชดใช้ดังกล่าว
เมื่อรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้นในข้อ 1 แล้วดังนี้
กรณีบาดเจ็บ จ่ายตามความเสียหายที่แท้จริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท/คน
กรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ จะได้รับการชดใช้ 100,000 บาท/คน
กรณีเสียชีวิต จะได้รับการชดใช้เป็นค่าปลงศพ 10,000 บาท/คน
กรณีเสียชีวิตหลังจากมีการรักษาพยาบาล จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายรวมกันเป็นเงิน 100,000 บาท/คน(เป็นค่ารักษาพยาบาล+ค่าปลงศพ)
ในกรณีที่ผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับขี่และเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ หรือไม่มีผู้ใดต้องรับผิดตามกฎหมายต่อผู้ขับขี่ที่ประสบภัย ผู้ขับขี่จะได้รับการชดใช้เฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
ค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าที่พระราชบัญญัติฯ กำหนด ผู้ประสบภัยสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้จากผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์
ตารางอัตราเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. รวมภาษี และอากร
กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยคืออะไร
กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีหน้าที่ จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย หากผู้ประสบภัยไม่ได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย/เจ้าของรถที่ไม่จัด ให้มีประกันภัย หรือไม่สามารถเรียกร้องจากที่ใดได้ เช่น รถชนแล้วหนี เจ้าของรถที่ไม่จัดให้มีประกันภัยไม่จ่ายค่าเสียหาย ฯลฯ การยื่นขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุน ฯ ผู้ประสบภัย / ทายาท ต้องยื่นภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดเหตุ
การยื่นขอรับค่าเสียหาย เบื้องต้นจากกองทุน
ผู้ประสบภัย/ทายาท สามารถยื่นคำร้องขอรับเสียหายเบื้องต้น จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ได้ที่
สำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
สำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต 4 เขต
เรียบเรียงโดย : ศรีกรุงโบรคเกอร์
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ต่อประกันรถยนต์ ,ประกันชั้น3พลัส ,3พลัส
ป้ายกำกับ: 3พลัส, broker, ชั้น2พลัส, ต่อประกันรถยนต์, บริษัทประกันภัยรถยนต์, ประกันชั้น1, ประกันชั้น2, ประกันชั้น2พลัส, ประกันชั้น3, ประกันชั้น3พลัส, ประกันภัยรถยนต์, ประกันรถกระบะ, ประกันรถกะบะ, ประกันรถยนต์, ประกันรถยนต์ชั้น1, ประกันรถเก๋ง, พรบ.รถยนต์, โบรกเกอร์
ประกันภัยรถยนต์,ประกันชั้น1,ประกันรถยนต์ชั้น1 By ศรีกรุงโบรคเกอร์
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 คือ การประกันภัยภาคสมัครใจชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประกันรถยนต์ประเภท 1
ความหมายของประกันภัยรถยนต์ชั้น1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เป็น การประกันภัยประกันภัยรถยนต์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยเป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการที่เหมาะสมของผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย ) การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
การประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากการใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
การประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะที่บุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์เป็นผู้ขับขี่ แต่ถ้าไม่ใช้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าร่วมรับผิดชอบต่อ ความเสียหายส่วนแรก ด้วย
เรียบเรียงโดย : ศรีกรุงโบรคเกอร์
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : แคมเปญ,ประกันรถกะบะ,ต่อประกันรถยนต์,ประกันภัยรถยนต์
ป้ายกำกับ: 3พลัส, broker, ชั้น2พลัส, ต่อประกันรถยนต์, บริษัทประกันภัยรถยนต์, ประกันชั้น1, ประกันชั้น2, ประกันชั้น2พลัส, ประกันชั้น3, ประกันชั้น3พลัส, ประกันภัยรถยนต์, ประกันรถกระบะ, ประกันรถกะบะ, ประกันรถยนต์, ประกันรถยนต์ชั้น1, ประกันรถเก๋ง, พรบ.รถยนต์, โบรกเกอร์
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 คือ การประกันภัยภาคสมัครใจชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประกันรถยนต์ประเภท 1
ความหมายของประกันภัยรถยนต์ชั้น1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เป็น การประกันภัยประกันภัยรถยนต์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยเป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการที่เหมาะสมของผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย ) การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
การประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากการใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
การประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะที่บุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์เป็นผู้ขับขี่ แต่ถ้าไม่ใช้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าร่วมรับผิดชอบต่อ ความเสียหายส่วนแรก ด้วย
ความรับผิดชอบกรมธรรม์ประเภทสมัครใจ ประเภท 1
ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
ทำไมเราจึงควรทำประกันภัยรถยนต์
ปัจจุบันจำนวนรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการดำเนินธุรกิจ และการดำเนินชีวิตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดก็มีสถิติสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นความจำเป็นในเรื่องการทำประกันภัย จึงต้องมีเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะเป็นหลักประกันที่มั่นคงในการดำเนินชีวิต และธุรกิจในสังคมนั่นเอง การประกันภัยรถยนต์เป็นการช่วยป้องกันทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยอย่างหนึ่ง รวมถึงความรับผิดของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องเป็นการรับผิดตามกฎหมาย ในเมื่อมีการชดใช้ค่าเสียหาย และอาจเป็นจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน ความเสี่ยงภัยเหล่านี้จะลดภาระ และความเดือดร้อนทางด้านการเงินให้กับผู้เอาประกันภัย ก็ต่อเมื่อได้ทำประกันภัยไว้เท่านั้น โดยเป็นการกระจายความเสี่ยงภัยออกไป และผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับภาระความเสี่ยงภัยนั้นแต่ผู้เดียว
ความคุ้มครองต่างๆ สำหรับประกันภัยรถยนต์
1. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก บริษัทผู้รับประกันภัยจะเข้ารับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก หากความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกนั้น ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งความคุ้มครองในส่วนนี้จะแบ่งเป็น
1.1 ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ซึ่งจะคุ้มครองความรับผิดต่อความบาดเจ็บ มรณะ โดยบุคคลภายนอกที่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้ จะรวมทั้งบุคคลที่อยู่ภายนอกรถยนต์คันเอาประกันภัย และบุคคลภายนอกที่โดยสารอยู่ในหรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์คันเอาประกันภัย โดยจะคุ้มครองเฉพาะจำนวนเงินค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าจำนวนเงินสูงสุดตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) ยกเว้น ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งคู่สมรส บิดา มารดา บุตร ลูกจ้างในขณะปฏิบัติงานของผู้ขับขี่
1.2 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ยกเว้น เป็นทรัพย์สินของผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งคู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้ขับขี่
2.รถยนต์เสียหาย สูญหาย ไฟไหม้
2.1 ความเสียหายต่อรถยนต์ ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อรถยนต์ โดยบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในระยะเวลาเอาประกันภัย รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์
2.2 ความเสียหายส่วนแรก เงื่อนไขของผู้เอาประกันภัยจะเข้าร่วมรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจำนวนเงินที่ระบุในกรมธรรม์ สำหรับกรณีที่รถคันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายก่อให้เกิดความเสียหาย
2.3 รถยนต์สูญหายไฟไหม้ การสูญหายจะรวมถึงการสูญหายทั้งคัน สูญหายบางส่วน สูญหายจากการลักทรัพย์ของลูกจ้าง หรือบุคคลใดเป็นผู้ลักทรัพย์ก็ตาม การเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้ด้วยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่นใดก็ตาม
3.ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (อนุสัญญาแนบท้าย)
3.1 อุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองความบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกันภัย หากความบาดเจ็บที่ได้รับเป็นผลให้บุคคลนั้นเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร หรือทุพพลภาพชั่วคราว โดยบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
3.2 ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองความบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของบุคคลที่อยู่ในรถยนต์คันเอาประกันภัย หากความบาดเจ็บเป็นผลให้ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าโรงพยาบาล ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
3.3 การประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีที่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย นำรถยนต์คันเอาประกันภัยไปใช้และเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นผลให้ถูกควบคุมตัวไว้ในคดีอาญา ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน พนักงาน อัยการ หรือศาล (จนถึงศาลฎีกา) โดยบริษัทต้องทำการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่โดยไม่ชักช้า ในวงเงินไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
รายละเอียดเงื่อนไขอื่นๆ ส่วนลด ของประกันชั้น3พลัส
ส่วนลดระบุอายุผู้ขับขี่ เป็นการคุ้มครองความรับผิดหรือความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันกันภัย ในกรณีที่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ (กรณีถ้าไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าร่วมรับผิดต่อความเสียหาย) เฉพาะรถยนต์ที่ใช้ส่วนบุคคลเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 4 ระดับอายุ คือ
ช่วงอายุ 18 – 24 ปี ส่วนลด 5%
ช่วงอายุ 25 – 35 ปี ส่วนลด 10%
ช่วงอายุ 36 – 50 ปี ส่วนลด 15%
ช่วงอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
ส่วนลดความเสียหายส่วนแรก เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย สำหรับค่าความเสียหายส่วนแรกของทรัพย์สินบุคคลภายนอก และ/หรือความเสียหายส่วนแรกของความเสียหายต่อรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่ประกันชั้น1 จะยกเว้น ค่าความเสียหายส่วนแรก ให้อยู่แล้ว
ส่วนลดกลุ่ม กรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยกลุ่ม 10%
ส่วนลดประวัติดี ส่วนลดตามหลักเกณฑ์ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี ซึ่งคำนวณจากประวัติปีที่ผ่านมา
เรียบเรียงโดย : ศรีกรุงโบรคเกอร์
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : แคมเปญ,ประกันรถกะบะ,ต่อประกันรถยนต์,ประกันภัยรถยนต์
ป้ายกำกับ: 3พลัส, broker, ชั้น2พลัส, ต่อประกันรถยนต์, บริษัทประกันภัยรถยนต์, ประกันชั้น1, ประกันชั้น2, ประกันชั้น2พลัส, ประกันชั้น3, ประกันชั้น3พลัส, ประกันภัยรถยนต์, ประกันรถกระบะ, ประกันรถกะบะ, ประกันรถยนต์, ประกันรถยนต์ชั้น1, ประกันรถเก๋ง, พรบ.รถยนต์, โบรกเกอร์
วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
เบิ้ยประกันประเภท 1 สำเร็จรูป บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน)
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)




